Wednesday, June 21, 2017

เจ้าสาวดังโงะ ตอนที่4

หลังจากที่เราเสร็จสิ้นพิธีการงานศาลเจ้าไปในตอนที่แล้วนั้น
เรามาเริ่มงานเลี้ยงดินเนอร์ไปพร้อมๆกันเลยดีกว่าค่ะ

หยุดความคิดของงานแต่งไทย ที่บ่าวสาว ยืนพูดบนเวที
มีผู้ใหญ่มาคล้องมาลัย มีพิธีกรสองคนขนาบข้าง ถามเรื่องราวความเป็นมา บลาๆๆๆ


ตัดมันออกไปก๊อนน มันไม่ใกล้เล๊ยยยยยย

เรากับสามี ประชุมกับพนักงานที่ดูแลงานเราบ่อยมาก ไปโรงแรมมันทุกอาทิตย์
เราจ้างพิธีกร ที่มีความสามารถพูดได้สองภาษา ทั้งญี่ปุ่นและอังกฤษ
เพื่อให้เพื่อนคนไทย และเพื่อนสามีที่บินตรงมาจากซิดนีย์ได้เอนจอยกับงานเราอย่างเต็มที่
ไม่ใช่มานั่ง งง อยู่ มันพูดไรกันวะ งี้

ก่อนหน้าวันงาน 2 อาทิตย์ได้ ที่มีการคุยสรุปทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่จะเกิดขึ้น
โดยมีเรา สามี และ พิธีกรช่วยกันตัดสินใจ ขั้นตอนต่างๆในพิธี
ถามว่าเราจำได้ไม๊ อะไรก่อนหลัง หึ งง มันเยอะมากจริง
ถึงขั้นบอกสามีว่า วันงานขอจดกำหนดการไว้บนโต๊ะได้ไม๊
ว่าเราต้องทำอะไรต่อไป 5555

4โมงเย็น ตรงเป๊ะ เรา และสามี และทีมช่าง 4 คน พร้อมรบละค่ะ
ทีมงาน โผล่ไปดูหน้าห้องแต่งตัว เอาจริงๆแล้ว ห้องที่เราแอบเปลี่ยนชุดอยู่
คือห้องแต่งตัวสำหรับงานแต่งโดยเฉพาะ คืออยู่มันหน้าห้องบอลรูมอ้ะแหล่ะ
คือเค้าคงคิดมาแล้วว่า 30 นาที ให้วิ่งขึ้นชั้น 8 ไปเปลี่ยนคงไม่ทัน
ทำห้องตรงนี้สักห้อง น่าจะเหมาะกว่า และมันใช้ได้จริงๆค่ะ

หลังจากทีมงาน เช็คบริเวณห้องบอลรูมว่าพร้อมรึยัง
เมื่อพร้อมเป๊ะ ทุกคนนั่งที่ ประตูบอลรูมปิดสนิท
เรากับสามีถึงเดินออกไปค่ะ
ตอนแรกมันวิ่งๆ มันก็ไม่ตื่นเต้นอ่ะ พอยืนรอจังหวะประตูเปิดเท่านั้นหล่ะ
ขาสั่นค่ะคุณผู้โชมมม เห้ย ตื่นเต้นน เอาไงดี เริ่มอยู่ไม่สุก
ทีมช่างก็มา กัมบัตเตะๆๆ อยู่ข้างๆ (แปลว่าสู้ๆ)
จัดแจงการถือช่อดอกไม้ การควงแขนสามี สามีมืออีกข้างวางตรงไหนไรงี้
ระหว่างนั้นก็พนักงานมาบรีฟ ว่าเข้าไปให้โค้งนะ มีขอบอยู่ที่พื้น
ลืมถอนสายบัว และยกมือไหว้ ทิ้งไว้ที่ไทยก่อน
ที่นี่โค้งคำนับอย่างเดียวค่ะ และชุดเดรสขาวที่เราใส่อยู่นั้น
แน่น แน่นมากกกกกก แน่นกว่าชุดกิโมโน ตอนนี้เหมือนตายไปครึ่งท่อน
งานเราวันอาทิตย์ใช่ม้ะ ไฟนอลชุดวันศุกร์ เรารู้ตั้งแต่วันนั้นละว่ามันแน่นมาก
แต่มันแก้ไม่ทันอ่ะ เสาร์เช้าครอบครัวเรากับเพื่อนมาแล้วววว
ไม่มีเวลาแก้อีก เอาก็เอาวะ ช่างมัน ใส่ก็ใส่

พอวันจริง มันรัดจนจะเจ็บหลัง หายใจไม่ออกกก
มีเวลาแก้ไขหรอ ไม่มี๊ ไปต่อค่ะ 55555

พอประตูเปิด ไฟส่องป๊าดดดด เดินเข้าห้องบอลรูม
แล้วโค้งตั้งแต่ตรงหน้าประตู ซ้ายที ขวาที
มีพนักงานคอยบอกตลอดว่าหันซ้ายนะ ขวานะ อ้ะเดินนะ ตลอดเวลา
สบายไป ไม่ต้องจำ 555 


เราบอกสามี ตั้งแต่ก่อนงานว่า เวลาโค้ง หรือลุก หรือนั่ง ให้เรารอด้วย
ชุดเราลุกยาก โค้งยาก ให้ช้าๆหน่อย
ซึ่งดูจากภาพนิ่งทั้งหลายแล้ว สามีให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขึ้นก่อนแต่อย่างใด
เงยหน้าไม่พร้อมกัน มันไม่สวยยยยย รูปไม่สวยยยย
ไม่มีพรีเวดก็งี้ 555555 แคร์รูปที่จะถ่ายออกมามาก 5555

โค้งเสร็จเราก็เดินไปยังเวทีค่ะ เวทีเราเตี้ยๆ เล็กๆ
มีโต๊ะ และเก้าอี้บัลลังก์สำหรับบ่าวสาว
งานญี่ปุ่น บ่าวสาว นั่งทานด้วยค่ะ 55555 แขกกินชั้นก็ต้องได้กินสิยะ




แต่วันจริงก็กินไม่ลงหรอก กินกันไปคนละคำสองคำให้พอหายหิว
แต่ไม่ต้องยืนนานๆ ก็คือที่สุดละค่ะ 555 เจ้าสาวงานไทย น่าจะเข้าใจดี 5555

ที่นั่งบ่าวสาวแค่นี้เลยค่ะ ง่ายๆ ไม่ต้องตัดโฟมป้ายชื่อบ่าวสาว
ไม่ต้องทำโลโก้ ไม่ต้องตกแต่งแบคกราวน์ใดๆทั้งสิ้น

เห็นถุงทิฟฟานี่ฟ้าๆในรูปไม๊คะ นั่นคือถุงของชำร่วยค่ะ
วางไว้ให้ที่เก้าอี้ ของใครของมันแบบนั้นเลย

มื่อถึงโต๊ะบ่าวสาว สามีก็กล่าวคำต้อนรับ เป็นภาษาญี่ปุ่น และอังกฤษค่ะ
อีที่งึมงำๆ มาตลอดทั้งวันนี่แหล่ะค่ะ ได้พูดสักที 5555
พูดเสร็จ จัดไปอีก 1 โค้ง แล้วนั่งลง

ระหว่างนี้พิธีกรก็พูดอะไรไปเรื่อย ฟังไม่ออก 5555
เรากับสามี ได้รับจดหมายอวยพรจากบุคคล บริษัท ห้างร้านมากมาย ก่อนวันงาน
แต่พิธีกรเลือกอ่านจดหมายจากนายกฯ ชินโซะ อาเบะค่ะ
เนื่องจากนักการเมืองที่มา เป็นพรรคเดียวกัน เค้าคงขอมาให้
ถามว่าที่อ่านมารู้เรื่องไม๊ ก็ไม่ 5555 ไม่ใช่ใครที่งง เจ้าสาวนี่หล่ะที่งง  5555

เจ้าบ่าวพูดเสร็จ อ่านจดหมายเสร็จ พิธีกรก็พูดถึงประวัติเราสองคนค่ะ
สองภาษา อังกฤษ และ ญี่ปุ่นค่ะ ประวัติจากที่ประชุมเจอกันเมื่อสองอาทิตย์ก่อน
มีการสัมภาษณ์กันไปตั้งแต่วันนั้น นางก็เล่าไป ไม่ต้องมาถามบ่าวสาวบนเวทีอีก 
เจอกันครั้งแรกที่ไหน ประทับใจอะไรในตัวเค้า ขอแต่งงานยังไง ไม่มี๊ ไม่ต้อง เล่าไป

จากนั้นก็มีกล่าวคำยินดีจากผู้มีหน้ามีตา มีตำแหน่งสูงๆ
เหมือนเราให้ความสำคัญให้เค้าพูดอ่ะค่ะ
เริ่มจากนักการเมืองก่อน เรียกชื่อเรา คาซาม่าซังๆๆ (เราชื่อไทย  กษมา KASAMA)
ญี่ปุ่นอ่าน คาซาม่า ทุกคน 5555 ฟังออก แค่ชื่อเราเท่านั้นแหล่ะค่ะ
นอกนั้นนั่งยิ้มเฉยๆ 55555 เพื่อนคนไทย มองหน้าเหมือนถาม ว่ามึงยิ้มนี่รู้เรื่องหรอ
ได้แต่ยิ้มกลับไป นี่ก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน 5555

ตอนผู้ใหญ่พูด บ่าวสาว และพ่อแม่บ่าวสาว ต้องลุกยืนด้วยนะคะ
เราเตี๊ยมแม่ไว้แล้วหล่ะ แต่กลัวแม่ลืม พนักงานที่คอยส่งสัญญานก็พูดอังกฤษไม่ได้
โต๊ะแม่ก็ไกล ได้แต่ลุ้นว่าแม่จะลุกป่าว 5555
นักการเมืองพูดจบ เราโค้งทำความเคารพ และนั่งลงค่ะ

ลืมไปรึยัง ว่าชุดเจ้าสาวแน่นสาสสส
มัน นั่ง ไม่ ลง เว้ย 5555 เอวถูกบล๊อคไว้อ่ะค่ะ
ตอนนั้นพะอืดพะอมมาก ทรมานสุดๆ น้ำตาจะไหล 55555

คนที่สองลุกขึ้นพูด เป็นประธานบริษัทซูซูกิระดับภูมิภาคอะไรซักอย่าง
คือที่บ้านเป็นธุรกิจขายรถค่ะ ก็จะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในธุรกิจรถยนต์ประมาณนี้
บ่าวสาว และพ่อแม่ ลุกอีกทีค่ะ พอลุกขึ้น นางบอกให้นั่งค่ะ
ไม่ถือตัว ไม่ต้องยืน บ่าวสาวนั่งอีกรอบค่ะ

..ช้าน เหมือน คน กำ ลัง จา ตายย  ที่ ขาด อา กาศ หาย จายยย..

หลังจากที่เราซ้อมตายกันมาหลายรอบ
ถึงเวลาที่เราต้องยืนมั่ง เดินมั่งละค่ะ 555
พี่ชายสามี ซื้อถังสาเกมาให้เป็นของขวัญวันแต่งงานค่ะ
เป็นถังไม้แบบโบราณ ด้านในบรรจุเหล้าสาเกค่ะ
ซึ่งทางทีมงาน แอบเปิดไปหน่อยละ เพื่อแจกให้กับแขกทุกคนในงานค่ะ
ด้วยแก้วบล็อคไม้ตามประเพณี และเป็นของที่ระลึกให้กับแขกทุกคนด้วยค่ะ
เอากลับบ้านได้เลย

ตามที่เราว่าไว้เมื่อตอนที่แล้ว ว่าสาเกเป็นสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลอง
การเปิดงาน เปิดบริษัท เค้าก้อมาระเบิดถังสาเกแบบนี้แหล่ะค่ะ
ฝาเป็นฝาไม้ ค้อนไม้ แข็งแรงเบอร์ไหนไม่ทราบได้ ต้องใช้แรงเท่าไหร่ไม่รู้
มือเราอยู่บนมือสามีอีกทีค่ะ 55555


ตีครั้งแรก ไม่แตก
รู้สึกจะตีตามลงไปเกิน 5 ที ถึงจะแตก 555555
ละยังไง กล้องบานเลยข้างหน้า
แขกที่ญี่ปุ่น เราไม่เห็นเค้านั่งเล่นมือถือเลยนะ
ใครพูดก็มอง ก็ฟัง สนใจ พอบ่าวสาวทำอะไร ก็วิ่งกรูมาข้างหน้ามาถ่ายรูป
น่ารักอ่ะ ซึ้งใจ มีส่วนร่วมตลอดๆ

เรื่องของเรื่องคือ ทุบยังไงให้รูปออกมาสวย 555555
ไม่ถ่ายพรีเวดก็เงี้ยยยย 555555
ผลสรุปออกมาว่า ไม่มีรูปไหนสวย บรายยย
เออ ช่างมัน เอาฟีลลิ่ง (ปลอบใจตัวเอง) 5555


เรามีผู้ใหญ่อีก 1 ท่าน ขึ้นพูดค่ะ ตอนนี้บ่าวสาว กลับเข้าโต๊ะละ
แต่ก็ยืนฟังเหมือนเดิม ผู้ใหญ่ท่านนี้จะพูดอวยพร รวมถึงนำ คัมไป ค่ะ
เหมือน ไชโย บ้านเราค่ะ แต่ไม่มี คัมๆๆ ไปๆๆ แบบ ไชๆๆๆ โยๆๆๆ งี้นะ
คัมไปทีเดียว และแขก กับบ่าวสาว ดื่มสาเกจากบล็อคไม้พร้อมๆกัน




พูดถึงเรื่องคัมไป ที่ญี่ปุ่นนี่ ไม่ว่าจะงานเล็กงานใหญ่
เครื่องดื่มจะมาก่อน และห้ามรีบดื่มก่อนนะ ต้องรอคัมไปพร้อมกันก่อน
ไม่ว่าจะกับบริษัท กับแก๊งเพื่อน ทุกวันนี้ เรากับสามียังคัมไปกันก่อนมื้ออาหารเลยค่ะ
ใครเดทกับหนุ่มญี่ปุ่น อย่าเพิ่งหิวน้ำ รีบกระดกนะคะ รอคัมไปกันก่อน
วางยาให้นางตายใจว่าเรารับวัฒนธรรมนาง พอเป็นแฟนแล้วค่อยกลืนค่ะ
หิวก้อกิน ไม่หิวก็กินแบบบ้านเรา 55555555

คัมไปเสร็จ มีสปีชสั้นๆจากเพื่อนสามีค่ะ พูดถึงความรู้สึก
ความผูกพันธ์ของนาง นู่นนี่นั่น ปกติแล้วจะมีทั้งเพื่อนเจ้าบ่าวและเจ้าสาวค่ะ
แต่เราเลือกเพื่อนไม่ได้ ทุกคนสำคัญหมด กลัวเพื่อนน้อยใจ
ไม่ต้องพูด ตามนั้น 55555




ถึงอีกหนึ่งพิธีค่ะ พิธีตัดเค้กกก
ตัดเสร็จให้เจ้าบ่าวป้อนเจ้าสาวค่ะ
แล้วเจ้าสาวจะป้อนกลับเป็นคำใหญ่ๆ ให้ใหญ่เท่าความรักที่มีให้ฝ่ายชาย
งานอื่นๆ เค้าเตรียม จอบ พลั่ว ทัพพีมาตักกันได้นะคะ เอาขำๆไรงี้
เราเอาแค่ช้อนธรรมดา สงสารสามี 5555




แต่พอสามีป้อนเรา เลวว นางตักคำใหญ่มากกกก ไม่สนใจรูปปากเราเลยย
พอตาเรา จัดเต็ม ใช้ช้อนแค่ตัดค่ะ แต่เอามือหยิบ
กินเข้าไป ไม่มีความเห็นใจใดๆทั้งสิ้น เลวววววว สมมมมมม


เรากับสามีทำเซอร์ไพรสให้เพื่อนๆค่ะ เราเลือกรูปมาทำเป็นวิดิโอ ใส่เพลง ใส่คำพูดไรงี้
ความคิดสามีค่ะ แต่ใครทำคลิป ดิชั้นค่ะ 555555 คิดทำไมให้มันลำบากน้อออ
เราก็เลือกรูปเพื่อนกลุ่มที่มาร่วมงานค่ะ มาหน้าใหม่ แต่ในคลิปหน้าเก่าบ้าง
ก็สนุกสนานดีค่ะ

ระหว่างนี้ เรากับสามีไม่ได้ว่างนะคะ
แขกที่มาร่วมงาน เดินขึ้นมาถ่ายรูปด้วยตลอดเวลา ยิ้มจนหน้าไม่รู้เป็นทรงอะไรเลยค่ะ
นั่งอยู่กับที่ แขกเดินเปลี่ยนขึ้นมาเรื่อยๆค่ะ ยิ้มอย่างเดียว



ต่อจากนั้น เป็นพิธีมอบดอกไม้ให้บ่าวสาวจากเด็กๆค่ะ
แล้วเราก็มอบของขวัญคืนให้เด็กๆค่ะ
เด็กที่เราเลือก เป็นลูกชายและลูกสาวของพี่ชายสามีค่ะ
พี่ชาย 4 ขวบ น้องสาว 2 ขวบ คนพี่นี่เกร็งหน้าตึงตั้งแต่เช้า 555
คนน้องนี่พอได้ของก็ไม่สนใจกล้องละค่ะ ก้มหน้าแทะของขวัญอย่างเดียว 555


หลังจากนี้ บ่าวสาวเดินละค่ะ กล่าวขอบคุณแขกตามโต๊ะ
แต่ไม่ได้บังคับถ่ายรูปทุกโต๊ะ แบบงานไทยนะคะ ส่วนใหญ่จะเป็นเซลฟี่
หรือแขกถ่ายเรามากกว่าค่ะ
เรามีพนักงานคอยบอกทางไปตลอดค่ะ นางเร่งด้วยนะ ถ้าโต๊ะไหนถ่ายนานอ้ะ
ทีมช่างแต่งหน้าก็คลานตามกระโปรงเรามาอีก 1 คน


พอเดินมาถึงโต๊ะสุดท้าย หันหลังโค้ง เดินออกประตูไปค่ะ
พอประตูปิดตามหลังเราปุ๊บ
เจ้าบ่าว เจ้าสาวหอบกระโปรงวิ่งค่ะ วิ่งจิงๆค่ะ
เรามีเวลาอีก 30นาที เพื่อเปลี่ยนชุดแดง แต่ก่อนหน้านั้น
เราต้องถ่ายภาพคู่ แบบโชว์ชุดสวยๆก่อน เพราะเราสั่งทำอัลบั้มไว้ 555
วิ่งสิคะรอไร ถ่ายเสจ ก็วิ่งกลับเข้าห้องแต่งตัวค่ะ
เปลี่ยนชุดแดง เปลี่ยนรองเท้า หน้าผม เครื่องประดับอีก 1 รอบ

ระหว่างนี้ด้านในทำอะไรกันน่ะหรอคะ
เปิดพรีเซ้นเทชั่นค่ะ ถุกค่ะ เพิ่งเปิดมันกลางงานนี่แหล่ะค่ะ
มีโชว์ไฟจากในห้องครัวนิดหน่อย เป็นครัวย่างค่ะ สำหรับอาหารจานต่อไปไรงี้

ครบ 30 นาที เรากลับมาประจำที่หน้าประตูค่ะ
ทีนี้เราเดินเข้างานพร้อมแม่ค่ะ จะเซ็ทเป็นฉากคล้ายพิธีในโบสถ์งี้
แบบเจ้าบ่าวไปรอข้างในก่อน เจ้าสาวเดินมากับพ่อหรือแม่ แล้วไปจับมือกัน
ส่งมือเจ้าสาวต่อไปให้เจ้าบ่าว นึกภาพออกม้ะ 55555
ไม่รู้จะทำ ทำไม นี่ยังไม่เข้าใจจนถึงทุกวันนี้







ต่อไป เป็นพิธีจุดเทียนค่ะ Candle Service
ทุกโต๊ะ จะมีแจกันดอกไม้ ที่มีเทียนอยู่ตรงกลาง
เราก็เดินไปจุดให้ทุกโต๊ะค่ะ มีโอกาสกล่าวคำขอบคุณอีกครั้งนึง
เมื่อครบทุกโต๊ะ เราก็มาจุดเทียนแต่งงานของเราค่ะ




สำหรับเทียนเล็กๆรอบ เราให้แขกมีส่วนร่วมในการจุดค่ะ

หลังจากนี้ก็มีการแสดงเล็กๆน้อยๆ จากเพื่อนสามีค่ะ
ขณะที่เรานั่งอยู่ที่โต๊ะ ก็มีคนต่อแถวถ่ายรูปตลอดนะคะ
ไม่ได้ว่างแม้แต่จะจิบน้ำ 5555






ที่ญี่ปุ่นยังมีพิธีที่แขกเดินมารินเบียร์ให้บ่าวสาวค่ะ
เบียร์ที่โต๊ะ เสริฟเป็นขวดค่ะ แขกก็เอาขวดนั้นแหล่ะ มาเติมให้เรา
ถึงขั้นใต๊โต๊ะ มีถังเปล่า ไว้ให้เราเททิ้งค่ะ 5555
สรุปไม่ได้แตะเบียร์ค่ะ เททิ้งหมด

อาหารตอนนี้เสริฟจนถึงอาหารหวานละค่ะ
และตัดแบ่งเค้กแต่งงานให้กับทุกๆคนด้วย
เรามีเกมส์ปุ๊บปั้บรับโชคให้ร่วมสนุก
แบบใต้จานเค้กมีสติ๊กเกอร์รูปหัวใจจะได้รางวัลอย่างงี้ค่ะ
แต่เอาจริงๆแล้ว ผู้โชคดีเราเลือกไว้ค่ะ 5555
เนื่องจาก ตำแหน่งที่นั่งแน่นอน เลือกใครก็ได้ตามนั้นค่ะ
เลือกเป็นน้องเด็ก 1 แขกญี่ปุ่น 1 แขกไทย 1 ค่ะ 

งานญี่ปุ่น จะรวมเอาทุกความรู้สึกมาไว้ในงานแต่งงานค่ะ
ทั้งความยินดีให้บ่าวสาว ความสนุกสนานจากการแสดง
และความซาบซึ้งจากจดหมาย ที่เจ้าสาวจะอ่านให้พ่อแม่ฟัง
เป็นจดหมายที่กล่าวคำขอบคุณ ความรักที่มีให้พ่อแม่ประมาณนี้ค่ะ

เจ้าสาวที่ญี่ปุ่นเชื่อว่า ถ้าอ่านไปร้องไห้ไปจะสวย
คนจะเห็นใจ ซาบซึ้ง อะไรทำนองนี้
ตอนเราร่างจดหมายอ้ะ ร้องไห้หนักมากกก พอวันจริง มันแค่ซึมๆ
น้ำมูกไหลเฉยๆ เพราะอ่าน 1 ตอน สามี ต้องแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นให้ค่ะ
อารมณ์ไม่ต่อเนื่องเลยอ้ะ แต่แม่ แม่ร้องไปล้าววววววววววว 5555
เพื่อน เพื่อนก็ร้องด้วยยยยยย 555555


บ่าวสาวและพ่อแม่ จะมายืนด้านหลังห้องบอลรูมรวมกันอีกครั้ง
มอบดอกไม้ให้แม่ มอบของขวัญให้พ่อ สามีเรากล่าวขอบคุณแขกอีกครั้งค่ะ
คราวนี้เป็นภาษาญี่ปุ่น และไทย ท่องแทบตายยยย พูดก็ไม่ชัด จะขำก็ไม่ได้ 5555


บ่าวสาว และพ่อแม่ จะมาตั้งแผงอีกครั้งหน้าประตูห้องบอลรูมค่ะ
เพื่อกล่าวขอบคุณเป็นรายบุคคล ย้ำ ทีละคนค่ะ
โดยเริ่มจากพ่อสามี แม่สามี สามี เรา แม่เรา พ่อเรา
แขกก้อเดินมาทีละคน กล่าวคำยินดีตั้งแต่หัวแถวยันท้ายแถว
ระหว่างนี้เราก็มอบ ขนมกล่องรูปดาวที่เราเตรียมไว้ให้ทุกคนค่ะ
จำขนมได้ไม๊ จำไม่ได้ไปอ่านตอนที่1 55555

คนญี่ปุ่นใส่ใจในการแสดงความยินดี และแสดงความขอบคุณมากๆค่ะ
แขกญี่ปุ่นที่เตรียมตัวมา ทราบว่าเราเป็นคนไทย
ก็ท่อง "ขอบคุณครับ" "ขอบคุณค่ะ" "ขอแสดงความยินดี" มาจากบ้านนะคะ
น่ารักกันอะไรเบอร์นี้ :)


เมื่อกล่าวขอบคุณและอำลาทุกคนครบเรียบร้อยแล้ว
ทางพนักโรงแรมที่ร่วมในงานทุกคน
น้องพนักงานเสริฟ บาร์เทนเด้อ เชฟ ทีมช่างแต่งหน้า
จะมายืนล้อมเราไว้ค่ะ เพื่อกล่าวแสดงความยินดีให้กับบ่าวสาวอีกครั้ง
น้ำตาจะไหล ซึ้งในความใส่ใจของเค้าค่ะ
งานไทยนี่งานไม่ทันจบเลอ หาพนักงานไม่เจอละ 555
เสร็จจากนี้เราก็วิ่งไปถ่ายรูปคู่ลงอัลบั้มอีก 1 ครั้งค่ะ


ต่อจากนั้นก็รีบเปลี่ยนชุดแล้วต่อด้วยอาฟเตอร์ปาร์ตี้ค่ะ
ขอคร่าวๆ เพราะจำไรไม่ได้มาก 55555

งานอาฟเต้อที่นี่ จ่ายตังค่าเข้าค่ะ งานเราคนละ 5000 เยน
มีเครื่องดื่ม และอาหาร และมีเกมส์แจกของรางวัล
เราเลือกเกมส์บิงโกค่ะ ฟังไม่ผิดค่ะ เราเล่นบิงโก 55555
ใครบิงโกก่อนก็ออกมาเอาของรางวัล ไล่จากรางวัลใหญ่ลงไปเล็กค่ะ
ก็สนุกสนานกันไป แบกรางวัลกลับบ้านกันไป

งานอาฟเต้อ เราใส่ชุดเดรสที่เราใส่ตอนงานหมั้นที่ไทยค่ะ
ละก็เปลี่ยนชุดนักเรียนญี่ปุ่นอีกชุดนึง เราอยากใส่ค่ะ เลยชวนสามีใส่ด้วย 555
นางก็ยอมว่ะ 5555555




คืนนั้นไปต่อกันอีก สองร้านค่ะ
เมาล้มมั่ง หลับคาร้านมั่ง นอนข้างถนนมั่ง หายไปติดต่อไม่ได้มั้ง
555555 เราเองกลับห้องตอนตีสามครึ่ง และหิวมาก
ดีที่ทางโรงแรม เอาอาหารเซ็ทของเรากับสามี
มาไว้ให้ที่ห้องค่ะ เพราะเราไม่ได้ทานในงาน 
นั่งกินมันตอนตีสามครึ่งนี่แหล่ะค่ะ 5555
ได้นอนตอนตีสี่นู่นน พระอาทิตย์ขึ้นละจ้าา เพิ่งได้ทิ้งตัวลงนอน

หมดวันสำหรับอังศุมาลินค่ะ 11โมง ยันตีสี่อีกวัน
1 งานแต่ง กับ 5 ชุดที่ต้องเปลี่ยน
ตอนหน้าน่าจะเป็นตอนสุดท้ายสำหรับรีวิวงานแต่งนะคะ
ฝากติดตามตอนต่อไป และต่อๆไปด้วย
มีอีกหลายเรื่องที่เราเห็นว่ามันดี หลังจากที่เราย้ายมาอยู่ที่ญี่ปุ่นค่ะ
ความน่ารักแบบไทย ถ้าได้ผสมผสานกับความเป็นระเบียบของญี่ปุ่น
คงจะดีไม่น้อยเลยนะคะว่าไม๊

สำหรับว่าที่เจ้าสาว ว่าที่เจ้าบ่าวเราไม่พูดถึงดีกว่าน่าจะน้อยที่เข้ามาอ่าน 5555
อะไรที่น่ารัก ที่ดีจากงานแต่งแบบญี่ปุ่นที่เรารีวิวไว้ ยินดีให้ลอกนะคะ
งานสมัยใหม่ไม่มีแบบแผน ทำตามใจ เอาที่เราชอบค่ะ งานแต่งทั้งที
ทำให้ถูกใจ และเป็นไปตามกำลังทรัพย์ที่มีนะคะ
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ขึ้นชื่อว่างานแต่ง อัพราคาขึ้นเท่าตัวค่ะ
สิ่งของประดับตกแต่งไม่สำคัญ เท่าความรักความหวานของคู่บ่าวสาวนะคะ
ไม่เอางานแต่งหรูหรา แล้วปวดหัวตอนจ่ายตังเน้ออ

ตอนต่อไปจะพูดถึง ระบบการจัดการหลังงานแต่งทั้งหมดค่ะ
เงินยังไม่ได้จ่าย ซองเงินหล่ะอยู่ไหน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทิ้งไว้บนโต๊ะไปไหนแล้ว
ตอนหน้ามาตามหาพวกมันกันค่ะ 

No comments:

Post a Comment