แรกเริ่มเดิมที ชีวิตนี้ก็ไม่คิดหรอกค่ะว่าจะได้แต่งงาน 555
ชีวิตผกผันได้สามีญี่ปุ่นซะงั้น
ไปๆมาๆที่บ้านสามีเป็นบ้านทำธุรกิจ รู้จักคนเยอะไปอี๊ก
งานแต่งต้องมี งานใหญ่ต้องมาละค่ะทีนี้
บ้านสามีอยู่ในเมืองเล็กๆ ในจังหวัดอิบารากิ มีโรงแรมใหญ่ๆไม่กี่ที่
เราเลยเลือกโรงแรมที่ใหญ่ที่สุด
และเดินทางสะดวกสำหรับแขกญี่ปุ่นที่เดินทางด้วยรถไฟค่ะ
HOTEL TERRACE the SQUARE HITACHI คือสถานที่จัดงานค่ะ
ใกล้บ้านมาก เวลาเราขับรถผ่านในอนาคต
เราจะได้มีความทรงจำดีดีเนอะงี้ สามีว่า - -*
หลังจากติดต่อทางโรงแรมแล้ว
ผู้ดูแลงานของเราก็มาพูดคุยถึงเรื่องรายละเอียดต่างๆค่ะ
งานครั้งนี้ มีทั้งประเพณีแบบญี่ปุ่นในศาลเจ้า
งานเลี้ยงดินเนอร์ และ2nd PARTY
แต่พอวันจริงเรามีถึง 3rd และ 4th PARTY ได้นอนตีสี่ของอีกวัน 5555
โอ้ยยยย พังเบอร์ไหนถามใจเธอดูวววว
ต่อๆๆ ถึงขั้นตอนเลือกการ์ดค่ะ
ตอนงานหมั้นไทย อีนี่นั่งทำการ์ดเชิญเองกับมือทุกใบค่ะ
พอมาถึงงานแต่ง พอกันที!!!! 5555 ไม่ไหวแล้ววว
ให้ทางโรงแรมจัดการให้ค่ะ มีการ์ดเชิญ / ป้ายชื่อบนโต๊ะอาหาร /
เมนูอาหาร และแผนผังที่นั่ง
งานแต่งญี่ปุ่นต่างจากงานแต่งไทยนิดนึง ตรงที่ ทุกคนต้องนั่งตามที่ ที่เราจัดไว้ไห้ เราจะเสริฟอาหารตามข้อจำกัดของแต่ละคนค่ะ
ไม่เนื้อ ไม่หมู ไม่ผัก ไม่กินโว้ยยยย อะไรก้อว่าไป
ฉะนั้น เราจะมีแผนผังที่นั่งให้ทุกคนตอนมาลงชื่อที่รีเซฟชั่นค่ะ
เราจะได้รู้ว่าเรานั่งโต๊ะไหน และข้างๆเราเป็นใครงี้
นี่เป็นแบบที่เราเลือกค่ะ ที่ญี่ปุ่นสีดำเป็นสีสุภาพค่ะ
ใช้ในงานแต่งได้ไม่ถือ แขกมาร่วมงานแต่งสีดำก็ได้นะคะ
เลือกลายดอกๆทองๆเหมาะกับเราดีค่ะ 5555555555555
ส่งอะไรไปให้แขกบ้างนั้น ซองตุงเลยค่ะ เพียบ
การ์ดเชิญเอย ใบตอบรับเอย
(ใครมาได้ หรือมาไม่ได้ ต้องส่งใบตอบรับกลับมาให้เจ้าภาพด้วยค่ะ เพราะเราต้องจัดทำแผนผังที่นั่ง บอกไม่มา แล้ววันจริงมา เราก็ไม่มีที่นั่งให้นะคะ เป็นธรรมเนียมเป๊ะๆตามแบบญี่ปุ่นเค้าค่ะ)
มีการ์ดอวยพร ให้นึกคำอวยพรล่วงหน้า แล้วเอามาให้วันงาน
มีเอกสารให้แจ้งเรื่องการแพ้อาหารด้วย
แล้วใครถูกเชิญมาร่วมพิธีโปรยดอกไม้
หรือเชิญไปงานพิธีญี่ปุ่นที่ศาลเจ้า
เราก็มีโน๊ตเล็กๆเสียบลงไปให้เพิ่มค่ะ
ต่อไป ขั้นตอนการเลือกชุดแต่งงานค่ะ
ชุดแต่งงานแบบกิโมโน 1 ชุด ชุดเดรสขาว 1 ชุด
และชุดเดรสสีๆอีก 1 ชุดค่ะ
ที่ญี่ปุ่น เจ้าสาวนิยมใส่เดรสสีๆด้วยนะคะ
เดรสสีเป็นยังไง คิดไม่ออก
ให้คิดถึงชุดคนถือป้ายคณะสีตอนเรียนม.ปลายค่ะ
แบบนั้นแหล่ะ แบบนั้นเลยยยยย
ชุดแต่งงานแบบกิโมโน อังสุมาลินไม๊หล่ะ ท่านผู้ชมมมมม
หน้ามืดเป็นเปาบุ้นจิ้นไปนิด อย่าถือสา นี่คือฝีมือสามี
แบบเดรสขาว
คณะสีแดงรพีพรรณรายมาแล้วค่าาา งานคาบาเร่ก็มา
อ่ะ ทุกคนว่าสีแดงสวย สวยก็สวย ดำเบอร์นี้ให้ใส่แดง ปวดตับ
ที่จริงชอบชุดเมอร์เมดข้างๆ แต่สามีไม่เห็นด้วย 5555
ก็เก๊าอยากเป็นนางเงือก อ่ะ นางเงือกกกก
ชุดสามชุดนี้กว่าจะเลือกได้ครบ
ไปร้านไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง ลองครั้งละ 5 ชุด
นางก็ไม่ว่านะ ชิวๆ ลองแล้วลองอีกก็ได้
ตอนงานหมั้นที่ไทยนะ ตอนไปลองชุดไทย
ร้านให้เลือกลองได้แค่ 3-5 ชุดอ้ะ
คือบางทีอยู่ในไม้แล้วสวยไง พอใส่แล้วไม่สวยไง
เข้าใจเราบ้างง เราก็อยากสวยที่สุดไงงงง
บ่นนนนนนนน - -"
ต่อไป ของชำร่วยงานแต่งแบบญี่ปุ่น แตกต่างจากไทยค่ะ
ของไทยจะเป็นเหมือนของชำร่วยชิ้นเล็กๆน่ารักๆ ติดชื่อเก๋ๆใช่ม้ะะ
ที่นี่เล่นใหญ่รัชดาลัยค่ะ สามสี่อย่าง หอบกลับกันแทบไม่ไหว
เราเลือกเป็นแก้วมัคของ Tiffany and co.
เพราะเราอยากได้ถุงกระดาษของนางค่ะ
มีขนมหวานยี่ห้อ โทโมะคุง เราเลือกเพราะชื่อขนมเหมือนเจ้าบ่าวค่ะ เราว่ามันตลกอ้ะ เเขกญี่ปุ่นก็ขำกับมุกนี้กันนะคะ
ละก็อูด้งรูปหัวใจ ในกล่องทรงลูกบอลแบบญี่ปุ่นค่ะ
แก้วมัคในกล่อง สวยหรู ดูแพง (แล้วก็แพงจริงๆ) 555
ข้างในมีอูด้งแห้ง ปลาหมึกฝอย ละก็ผงโรยข้าวค่ะ
ซ้อมจัดวางของในถุง ตอนนี้ขนมโทโมะคุงเอาไปห่อ แล้วติดคำขอบคุณและชื่อของบ่าวสาวแล้วค่ะ
เราเพิ่มชามของ Tiffany เข้าไปอีกกล่อง
สำหรับแขกที่มาเป็นคู่ หรือครอบครัวค่ะ
เท่านั้นยังไม่พออออออ
เรามีของแจกก่อนกลับบ้านอีกกกกกกก
ข้างในมีคุกกี้เล็กๆ แบ๊วๆค่ะ
เห็นไม๊คะ ว่าคนญี่ปุ่นมีความใส่ใจทุกๆรายละเอียดขนาดไหน คิดแล้วคิดอีก เพื่อให้ทุกคนที่มาร่วมงานพึงพอใจ นอกจากนี้ยังเลือกอาหารเองทุกจาน เพลงทุกเพลงที่เปิดในงานนางก็ให้บ่าวสาวเลือกจ้ะ
ตอนหน้าจะมาต่อด้วยเรื่องในวันงานละกันนะคะ
พิธีการต่างๆ แต่งหน้าทำผม วิ่งวนเปลี่ยนสามชุดยังไงให้ทัน 555
นี่คิดแล้วยังเพลียอยู่เลอ
เป็นกำลังใจให้ว่าที่เจ้าสาวทุกท่านที่กำลังเตรียมงานนะคะ
สำคัญที่สุดในชีวิตคู่ไม่ใช่งานแต่งงานที่ใหญ่โตหรืออะไร แต่มันคือ..
ความรัก และความเข้าใจซึ่งกันและกันนะคะ
No comments:
Post a Comment